SECURE กับการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG กรอบแนวคิดนี้สำคัญอย่างไรกับองค์กร?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการกระทำของมนุษย์นั้น ส่งผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและสัมคมอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยผลของการกระทำดังกล่าวก่อเกิดความเสียหายต่อโลกใบนี้มาอย่างยาวนานจนเข้าสู่ภาวะวิกฤต สั่นคลอนความยั่งยืนในอนาคต และมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับวิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรง และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล

ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวอย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงแค่ตัวบุคคลเท่านั้น หากแต่วิกฤตที่เกิดขึ้นกับโลกของเรายังส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กรอีกด้วย

จากปัญหาที่กล่าวมานั้น ทำให้บริบทของสังคมเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรต่างๆ ต้องปรับรูปแบบการดำเนินกิจการ จะหวังประโยชน์จากผลกำไรอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะองค์กรไม่สามารถดำรงอยู่ได้เพียงลำพังโดยไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยสภาพแวดล้อมอื่นๆ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเกื้อกูลกันในทุกมิติเพื่อให้อยู่รอดได้ในระยะยาว โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นที่มาของกรอบแนวคิดความยั่งยืน ที่ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจหรือที่เรียกว่า ESG ซึ่งแนวคิดดังกล่าวได้รับการยอมรับจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ประกอบไปด้วยปัจจัยสำคัญ 3 ด้านด้วยกัน ดังนี้

  • สิ่งแวดล้อม (Environmental) – การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการรักษาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจ
  • สังคม (Social) – การบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กรอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม คำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานและสุขภาพของพนักงาน ไปจนถึงลูกค้า ชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทตลอดทั้ง
    ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ (Value Chain)
  • ธรรมาภิบาล (Governance) – การดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ต่อต้านการทุจริต มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตลอดจนการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทอย่างเหมาะสม

 

SECURE เป็นองค์กรที่ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิด ESG อย่างครบทุกมิติ ด้วยการนำหลัก ESG มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม กำหนดเป็นนโยบายและกลยุทธ์ขององค์กรเพื่อความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการประกอบกิจการด้วยความดูแลเอาใจใส่ต่อผู้มีส่วนได้เสีย เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ ซึ่งการดําเนินธุรกิจภายใต้กรอบแนวคิด ESG นี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมพร้อมกับการเติบโตขององค์กรควบคู่ไปด้วยกัน

ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในมุมมองของ SECURE

การทำธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่องค์กรต้องทำ ซึ่ง SECURE ได้วางกรอบแนวทางไว้อย่างชัดเจน ด้วยการป้องกัน ลด จัดการ และดูแลให้มั่นใจว่า บริษัทจะไม่สร้างหรือก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบต่อสิ่งแวดล้อม

สำหรับที่สำนักงานใหญ่ของ SECURE นั้น มีแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ เช่น การลดใช้กระดาษ การเปลี่ยนจากขวดน้ำพลาสติกเป็นขวดแก้ว รวมถึงการประหยัดพลังงานไฟฟ้าด้วยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ใช้พลังงานทดแทนที่เป็นพลังงานสะอาด อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายขององค์กรอีกด้วย

สิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมในสังคม

SECURE เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับพนังงานอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม โดยสนับสนุนและเคารพการปกป้องสิทธิมนุษยชน ด้วยการปฏิบัติต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ชุมชน และสังคมรอบข้างด้วยความเคารพในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ คํานึงถึงความเสมอภาคและเสรีภาพที่เท่าเทียมกัน ไม่ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานและไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ภาษา สีผิว เพศ อายุ การศึกษา สภาวะทางร่างกาย หรือสถานะทางสังคม รวมถึงจัดให้มีการดูแลไม่ให้ธุรกิจของบริษัทเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น การใช้แรงงานเด็ก และการคุกคามทางเพศ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน SECURE ยังตระหนักถึงความสําคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม อันเป็นปัจจัยที่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ทั้งนี้ SECURE ได้กําหนดนโยบายและแนวปฏิบัติของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการจัดให้มีสวัสดิการพนักงานในระดับต่างๆ ครอบคลุมประกันสุขภาพ การคุ้มครอง และประกันภัย อีกทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร โดยจัดให้มีการจัดอบรม สัมมนา เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ ศักยภาพของบุคลากร รวมถึงปลูกฝังทัศนคติที่ดีมีคุณธรรม จริยธรรม และการทํางานเป็นทีม

สำหรับในมิติของชุมชนนั้น SECURE ได้นําความรู้และประสบการณ์ทางธุรกิจมาพัฒนาโครงการที่สามารถสร้างเสริมประโยชน์ต่อชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ยกตัวอย่างเช่น การจัดโครงการ “เตือนภัยในโลกไซเบอร์” ซึ่งเป็นการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ Cybersecurity และการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในชีวิตประจำวัน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา  สำหรับวัตถุประสงค์นั้นเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดีย และการรู้เท่าทันกลอุบายของมิจฉาชีพเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์

ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นสู่การเป็นองค์กรที่โปร่งใส

SECURE ได้เล็งเห็นความสําคัญของการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น และมีความมุ่งมั่นในการดําเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรมภายใต้กรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยยึดหลักธรรมาภิบาล จรรยาบรรณ และจริยธรรมในการดําเนินธุรกิจ มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย

เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีนโยบายการกําหนดความรับผิดชอบ แนวปฏิบัติและข้อกําหนดในการดําเนินการที่เหมาะสม และเพื่อให้การตัดสินใจในการดําเนินธุรกิจที่อาจมีความเสี่ยงด้านการทุจริตคอร์รัปชั่นได้รับการพิจารณาและปฏิบัติอย่างรอบคอบ SECURE จึงได้จัดทำ “นโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น” เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน เช่น ห้ามให้หรือรับสินบนในรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น เป็นต้น

นอกจากนี้ SECURE ยังมีการบริหารกิจการบนพื้นฐานความโปร่งใส ยึดมั่นในหลักการกํากับดูแลกิจการ และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและต่อต้านการทุจริต โดย SECURE ได้กําหนดโครงสร้างองค์กรให้มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ กระบวนการทํางาน และสายการบังคับบัญชาในแต่ละหน่วยงานให้มีความชัดเจน เพื่อให้มีการถ่วงดุลอํานาจและมีความรัดกุมในการตรวจสอบระหว่างกันอย่างเหมาะสม

การที่ SECURE ได้นำหลัก ESG มาปรับใช้ให้เข้ากับแนวทางดำเนินธุรกิจขององค์กรดังที่กล่าวมานั้น นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกกลับมาแข็งแรงอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว SECURE ยังสามารถสร้างค่านิยมไปพร้อมกับการปลูกฝังแนวคิดในหลักของ ESG ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ ผลักดันให้ทุกภาคส่วนตื่นตัวกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นและลงมือแก้ปัญหาร่วมกัน นอกจากนี้การดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร เป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบอย่างตั้งใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่กำลังมองหาองค์กรที่สามารถลงทุนในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน

 

ข้อมูลจาก www.nia.or.th/ESG-sustainability-concepts-or-trends#