
22 Jan เมื่อ COVID-19 มาก็ถึงยุคของ SASE
COVID-19 ทำให้วิถีชีวิตเราเปลี่ยนไปเยอะทีเดียวครับ แม้การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในชีวิตจริง แต่ก็ส่งผลกระทบไปถึงโลกไซเบอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะวิถีการทำงานเปลี่ยนไปทำภายนอกองค์กรมากขึ้น ทำให้ความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีเพิ่มขึ้นในทันที นั่นทำให้ผู้คนเริ่มมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ แนวคิดการวางระบบใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับระบบขององค์กร โดยที่ยังสามารถให้พนักงานทำงานภายนอกองค์กรไปด้วยได้
นี่จึงเป็นที่มาของ Secure Access Service Edge หรือ SASE แนวคิดการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่นำเอาเครื่องมือที่ปกติแล้วจะอยู่ใน Server ขององค์กรย้ายขึ้นไปอยู่บน Cloud เพื่อให้ข้อมูลและระบบขององค์กรได้รับการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะมีการเข้าถึงข้อมูลหรือระบบจากภายในหรือภายนอกองค์กร
จากข้อมูลพบว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในแนวคิด SASE จะเป็นกลุ่มที่มีการรวมความสามารถของ Wide Area Network (WAN) หรือการเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล เช่น สำนักงานใหญ่ กับสาขาต่างๆ โดยนำมาประกอบกับการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย (Network Security)
SASE จะเข้ามาตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการเป็น Digital Enterprise เพราะเป็นการรวมโซลูชันในการทำงานและการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ให้มาทำงานร่วมกันบน Cloud เดียว ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับองค์กรอย่างมาก ยิ่งในกรณีที่มีหลายสาขา เช่น ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร โรงแรม หากแต่ละสาขามีการติดตั้งระบบที่มาจากคนละผู้พัฒนา เมื่อต้องการเชื่อมต่อข้อมูลหรือทำงานผ่านสาขาต่างๆ หรือแม้กระทั่งเชื่อมต่อกับสำนักงานใหญ่ การเข้ารหัสข้อมูลก็จะซับซ้อนและเชื่อมต่อถึงกันยาก แต่หากทุกอย่างอยู่บน Cloud เดียวกันก็สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น เพราะมีจุดศูนย์กลางที่ต้องรักษาความปลอดภัย นำเข้านำออกข้อมูลเพียงหนึ่งเดียว
นอกจากนี้ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย เพราะเมื่อข้อมูลไปอยู่บน Cloud แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมี Server หรือ Hardware ในแต่ละสาขา ลดค่าอุปกรณ์ ค่าซ่อมบำรุง ค่าไฟ ฯลฯ ถือเป็นการลดต้นทุนบริษัทลง ข้อดีที่ได้กลับมาอีกอย่างก็คือการทำงานจะเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม เพราะเมื่อต้องการเข้าถึงข้อมูลที่มีในบริษัทก็สามารถเชื่อมต่อระบบขึ้นไปบน Cloud ได้ โดยไม่ต้องให้คำสั่งวิ่งกลับเข้าไปที่ Server ของสำนักงานใหญ่ก่อนแล้วจึงวิ่งกลับออกมายังสาขาย่อย ดังนั้นไม่ว่าพนักงานจะทำงานจากที่ไหนก็สามารถเข้าถึงระบบขององค์กรที่อยู่บน Cloud ได้ทั่วถึงทุกคน ยิ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาอุปกรณ์ IoT มากขึ้น การนำแนวคิด SASE มาใช้ถือว่าเป็นการเตรียมการรองรับอนาคตไปในตัว
ในเรื่องความปลอดภัยการเลือกให้ระบบขององค์กรไปอยู่บน Cloud จะทำให้สามารถรักษาความปลอดภัยของระบบได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากมีจุดเดียวให้ดูแลไม่ต้องเข้าไปดูแลที่แต่ละสาขา จึงลดโอกาสเสี่ยงที่เกิดจากการวางระบบไว้หลายจุดหลายสถานที่ลงได้
หวังว่าแนวคิด SASE ที่ผมเล่าให้ฟังนี้จะน่าสนใจสำหรับการนำมาปรับใช้ในองค์กรของท่านไม่มากก็น้อยนะครับ