Share

ภัยไซเบอร์ ‘AI voice chatbot’ แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในปี 2024

Last updated: 9 Jan 2024
871 Views
ภัยไซเบอร์ AI voice chatbot แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในปี 2024

อีกเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ เราก็จะเข้าสู่ปี 2024 กันแล้ว วันนี้ผมจึงอยากจะหยิบยกเอาเรื่องแนวโน้มทิศทาง "ความปลอดภัยไซเบอร์" ในปี 2024 มาให้ผู้อ่านทุกคนได้ทราบกันไว้ก่อนล่วงหน้าครับ

ตามการคาดการณ์ของ WatchGuard เผยว่า ในปีหน้าจะได้เห็นพาดหัวข่าวเรื่องการโจรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Large Language Model (LLM), AI-based voice chatbots (แชทบอทที่ใช้เสียงสั่งการ), VR/MR headset สมัยใหม่ และอื่นๆ อีกมากมายเพิ่มมากขึ้น 

เพราะทั้งองค์กรและบุคคลทั่วไปก็กำลังทดลองใช้ LLM เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเหล่าบรรดาแฮกเกอร์ก็กำลังเรียนรู้วิธีใช้ประโยชน์จาก LLM เพื่อจุดประสงค์ที่เป็นอันตรายด้วยเช่นกัน

และไม่ว่าจะเป็นแฮกเกอร์หรือนักวิจัยก็ตาม ต่างก็เร่งถอดรหัสโค้ดและจัดการ LLM ซึ่งจุดนี้เองจะนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวได้

AI-based Vishing เริ่มขึ้นในปี 2024 ต้องยอมรับว่าปัจจุบันทรัพยากรบุคคลด้านนี้ขาดแคลนอย่างมากโดยมีการเปิดรับตำแหน่งงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ถึงราว 3.4 ล้านตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดมากสำหรับผู้มีความสามารถ

ทำให้บริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลางจำนวนมากขึ้นหันมาใช้บริการผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยที่เชื่อถือหรือที่เรียกว่า MSP และ MSSP เพื่อปกป้ององค์กรของตนส่งผลให้ความต้องการ MSP และ MSSP จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าบนแพลตฟอร์มความปลอดภัยแบบครบวงจรพร้อมระบบอัตโนมัติจำนวนมากที่ใช้เอไอและแมชีนเลิร์นนิง

แน่นอนว่าอาชญากรทางไซเบอร์สามารถซื้อเครื่องมือในตลาดมืดเพื่อส่งอีเมลขยะ สร้างข้อความที่น่าเชื่อถือโดยอัตโนมัติ และเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียเพื่อหาข้อมูลและการเชื่อมต่อของเป้าหมายนั้นๆ

อย่างไรก็ตาม เครื่องมือเหล่านี้จำนวนมากยังคงเป็นแบบ manual และต้องการให้แฮกเกอร์กำหนดเป้าหมายการโจมตีไปที่ผู้ใช้รายเดียวหรือกลุ่มในแต่ละครั้งเท่านั้น

โดยรูปแบบการทำงานในลักษณะนี้เองที่เหมาะสำหรับระบบอัตโนมัติเอไอและแมชีนเลิร์นนิงเป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้มีแนวโน้มว่า เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอจะกลายเป็นสินค้าขายดีบนเว็บมืดในปี 2024 นั่นเอง

วิชชิ่ง (Vishing หรือ Voice Phishing) เป็นรูปแบบหนึ่งของแก๊งมิจฉาชีพที่กำลังระบาดหนักอยู่ในประเทศไทยในขณะนี้ โดยการโทรหลอกล่อเหยื่อเพื่อให้โอนเงิน แม้ว่าเทคโนโลยี Voice over Internet Protocol (VoIP) และเทคโนโลยีอัตโนมัติจะทำให้การกดหมายเลขหลายพันหมายเลขเป็นเรื่องง่าย

แต่เมื่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงให้รับสายก็ยังต้องใช้นักต้มตุ๋นที่เป็นมนุษย์ในการหลอกอยู่ดี แต่ในปี 2024 สิ่งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปเพราะจะมีการผสมผสานระหว่างเสียง Deepfake ที่น่าเชื่อถือและ LLM ที่สามารถดำเนินการสนทนากับเหยื่อและช่วยเพิ่มขนาดและปริมาณการโทรแบบวิชชิ่งได้มาก ยิ่งไปกว่านั้น อาจไม่จำเป็นต้องใช้มนุษย์ให้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยซ้ำ

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ QR code ทำให้เกิดความกังวล อย่างที่ทราบกันดีว่า QR code มีมาหลายทศวรรษแล้วแต่มีการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะถูกนำมาช่วยในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อย่าง โทรศัพท์มือถือและแท็บแล็ต และด้วยเหตุผลนี้เองที่นักวิเคราะห์จึงได้คาดว่าจะมีการแฮกเพื่อข้อมูลสำคัญต่างๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

เราจะเห็นได้ว่าเทรนด์เทคโนโลยีที่มาใหม่จะเป็นการเปิดช่องโจมตีให้กับอาชญากรไซเบอร์ซึ่งจะมีความรุนแรง ซับซ้อน และยากต่อการจัดการมากยิ่งขึ้น สาเหตุมาจากปัญหาการขาดแคลนทักษะด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นการมี MSP การรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร และมีแพลตฟอร์มอัตโนมัติจะช่วยเสริมความปลอดภัยทางไซเบอร์และปกป้ององค์กรจากภูมิทัศน์ภัยคุกคามที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อใดก็ตามที่มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้น แน่นอนว่าแฮกเกอร์ก็จะติดตามไปด้วยทุกที่ครับ

สามารถติดตามบทความจาก CEO ผ่านทางบทความ Think Secure โดย คุณนักรบ เนียมนามธรรม (นักรบ มือปราบไวรัส) เป็นประจำทุกสัปดาห์ ได้ทางหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ หรือช่องทาง Online ที่ https://www.bangkokbiznews.com/category/tech/gadget

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (ฉบับวันที่ 18 ธันวาคม 2566)
https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1104226

Related Content
This website uses cookies to enhance your experience and providing the best service from us. Please confirm the acceptance. You can learn more about our use of cookies from our Policy. Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare